วันพุธที่ 2 เมษายน 2568

บอร์นมัธ - อิปสวิช ทาวน์ (01:45 น.)
บอร์นมัธ จะต้อนรับนักเตะแบบ มิลอส เคอร์เคซ และ ดีน เฮาจ์เซ่น กลับมาจากการติดโทษแบนในเกมเอฟเอ คัพที่เจอ แมนฯ ซิตี้

กระนั้น จัสติน ไคลเวิร์ต มีอาการเจ็บรบกวนเลยต้องรอดู ในขณะที่ เอเนส อูนาล ยังต้องพักรักษาตัวอีกนาน

อิปสวิช จะต้องรอดูความพร้อมของ แคลวิน ฟิลลิปส์ ส่วนในรายของ อักเซล ตวนเซเบ กับ คอนเนอร์ แชปลิน กลับมาซ้อมแล้วจึงต้องรอประเมินความพร้อมเช่นกัน

นักเตะรายอื่นก็มีปัญหาในเรื่องของสภาพความฟิตอยู่เล็กน้อย ส่วนผู้รักษาประตูสำรองแบบ อาริยาเน็ท มูริช อาจต้องเข้าผ่าตัดอาการเจ็บที่หัวไหล่


ไบรท์ตัน - แอสตัน วิลล่า (01:45 น.)
ไบรท์ตัน อาจจะไม่มี จอร์จินิโอ รุตแตร์ กับ อดัม เว็บสเตอร์ ให้ใช้งานตลอดทั้งฤดูกาลที่เหลือเพราะอาการเจ็บที่เกิดขึ้นจากเกมเอฟเอ คัพ

อย่างน้อย ซอลลี่ มาร์ช กับ มัตส์ วีฟเฟอร์ อาจจะกลับมาฟิตพร้อมสำหรับการช่วยทีม

ขณะที่ วิลล่า ก็จะได้ รอส บาร์คลี่ย์ ฟื้นตัวจากปัญหาเจ็บหัวเข่าและน่องเพื่อกลับมามีชื่ออีกครั้ง

อักเซล ดิซาซี่ ก็พร้อมลงสนามแต่ ลีออน เบลี่ย์ มีปัญหาเจ็บรบกวนเล็กน้อยน่าจะต้องพักต่อไป


แมนเชสเตอร์ ซิตี้ - เลสเตอร์ ซิตี้ (01:45 น.)
แมนฯ ซิตี้ จะขาดดาวซัลโวของทีมแบบ เออร์ลิ่ง ฮาลันด์ ไปเพราะอาการเจ็บข้อเท้าและจะต้องพักนานถึง 5-7 สัปดาห์

นอกนั้นพวกเขายังขาด โรดรี้, นาธาน อาเก้, มานูเอล อคานยี และ จอห์น สโตนส์ ตามเดิม

เลสเตอร์ เองอาจจะได้ ริคาร์โด้ เปเรย์ร่า กลับมาจากอาการเจ็บแฮมสตริง หลังจากคัมแบ็คเป็นสำรองในเดือนที่แล้วและเจออาการเจ็บเล็กน้อยเล่นงานอีก

ที่เหลือพวกเขายังคงไม่มี อับดุล ฟาตาวู เหมือนเดิมเพราะอาการเจ็บหัวเข่า

เก็บตกสถิติเล็กน้อย
- แมนฯ ซิตี้ แพ้มา 3 จาก 6 นัดหลังสุดในพรีเมียร์ลีก แต่ก็มาจากเกมที่พบกับ ลิเวอร์พูล, อาร์เซน่อล และ ฟอเรสต์ ทีมท็อปทรีในปัจจุบัน

- แมนฯ ซิตี้ ยังมีโอกาสคว้าชัยชนะเหนือ เลสเตอร์ เป็นนัดที่ 7 ติดต่อกันในลีก


นิวคาสเซิ่ล ยูไนเต็ด - เบรนท์ฟอร์ด (01:45 น.)
นิวคาสเซิ่ล ยังคงไมมี แอนโธนี่ กอร์ดอน เหมือนเดิมเพราะจะต้องชดใช้โทษแบนเป็นนัดสุดท้าย แถมมีอาการเจ็บจากทีมชาติด้วย

ส่วน สเวน บ็อตมัน, ลูวิส ฮอลล์ และ จามาล ลาสเซลส์ ยังคงกลับมาคืนสนามไม่ได้

สำหรับ เบรนท์ฟอร์ด นั้นจะได้ มิเชล คาโยเด้ พ้นจากอาการเจ็บหัวเข่ากลับมาช่วยทีมหลังหายหน้าไป 2 นัด

มาธิอัส เยนเซ่น มีอาการป่วยจะพลาดเกมนี้และ ฟาบิโอ คาร์วัลโญ่ ผ่าตัดหัวไหล่น่าจะต้องพักจนกระทั่งจบฤดูกาลเลย

เก็บตกสถิติเล็กน้อย
- นิวคาสเซิ่ล แพ้มา 3 จาก 5 เกมหลังสุดที่ลงสนามใน เซนต์ เจมส์ พาร์ค แต่ฟอร์มโดยรวมเก็บชัยชนะไป 9 จาก 13 นัดหลังสุดในลีก

- ฤดูกาลนี้ นิวคาสเซิ่ล ยังเก็บไปได้ 18 แต้มในการคัมแบ็คกลับมาจากที่เป็นฝ่ายตามหลังก่อน มีเพียงแค่ ลิเวอร์พูล ทำได้ดีกว่าพวกเขา (19 แต้ม)


เซาแธมป์ตัน - คริสตัล พาเลซ (01:45 น.)
เซาแธมป์ตัน จะได้ทั้ง ยาน เบดนาเร็ค, เทย์เลอร์ ฮาร์วูด-เบลลิส และ เจมส์ บรี สามกองหลังผ่านความฟิตสำหรับลงสนาม

ถึงอย่างนั้น วิล สมอลโบน จะอดช่วยทีมเพราะเจ็บขาหนีบซึ่งทำให้เขาต้องถอนตัวจากทีมชาติ

ส่วน พาเลซ ก็จะหมดสิทธิ์ใช้ คริส ริชาร์ดส เพราะปัญหาเจ็บน่อง แต่ก็ได้ ฌ็อง-ฟิลิปป์ มาเตต้า กลับมาตั้งแต่เกมเมื่อวันเสาร์

วิล ฮิวจ์ส ก็จะติดโทษแบนลงสนามช่วยทีมได้และ ชาดี้ ริอาด กับ ชีค ดูคูเร่ ยังต้องพักรักษาตัวไปอีกระยะนึง


ลิเวอร์พูล - เอฟเวอร์ตัน (02:00 น.)
ลิเวอร์พูล อาจจะได้ คอนเนอร์ แบรดลี่ย์ สลัดปัญหาอาการเจ็บแฮมสตริงกลับมาเป็นตัวเลือกในเกมนี้

ไรอัน กราเฟนเบิร์ค จะพร้อมสำหรับการลงสนามแม้ถอนตัวจากทีมชาติเพราะอาการเจ็บ แต่ในรายของ อลิสซอน ต้องรอประเมินอีกทีจากที่พบอาการคอนคัสชั่นตอนไปเล่นกับทีมชาติ

เอฟเวอร์ตัน ได้ อิลิมาน เอ็นดิอาย และ ดไวท์ แม็คนีล กลับมาซ้อมเต็มสูบอีกครั้ง แต่ก็ยังไม่แน่นอนว่าจะได้มีส่วนร่วมในเกมนี้หรือไม่

ส่วน วิตาลี มีโกเลนโก้ ก็สลัดปัญหาเจ็บต้นขาจากเกมทีมชาติทิ้งไปได้

เก็บตกสถิติเล็กน้อย
- ลิเวอร์พูล เอาชนะ เอฟเวอร์ตัน ด้วยสกอร์ 2-0 ตลอดการเปิดรังเหย้าพบกัน 3 นัดหลังสุดในลีก

- เกมเดียวจาก 24 นัดนับตั้งแต่ปี 1999 ที่ เอฟเวอร์ตัน บุกไปเอาชนะถึง แอนฟิลด์ ในลีกได้คือการพบกันเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ 2021 (เสมอ 9 แพ้ 14)

- โมฮาเหม็ด ซาล่าห์ มีส่วนร่วมกับการทำประตูของ ลิเวอร์พูล ถึง 8 ลูกจากการเล่นเมอร์ซี่ย์ไซด์ ดาร์บี้ 7 นัดหลังสุดในลีก (ยิง 6 แอสซิสต์ 2)

- เดวิด มอยส์ หาชัยชนะไม่เจอจากการบุกไปเยือนถิ่น แอนฟิลด์ มา 19 นัดในพรีเมียร์ลีก