วันเสาร์ที่ 7 ตุลาคม 2566

กาดิซ - กิโรน่า (19:00 น.)

กาดิซ ของกุนซือ เซร์คิโอ กอนซาเลซ เก็บไป 9 คะแนนจาก 8 เกม รั้งอันดับ 12 ของตาราง แต่พวกเขาไม่ชนะใครในลีกมา 4 นัดติดต่อกันแล้ว หลังจากล่าสุดโดน แอตเลติโก้ มาดริด พลิกแซงชนะ 3-2

เจ้าบ้านต้องมาเสีย ฟาลี่ ที่เจ็บจากแมตช์แพ้ แอตฯ มาดริด และนั่นเป็นการเปิดโอกาสให้ มามาดู เอ็มบาย คุมเกมรับแทน พวกเขายังหมดสิทธ์ใช้งาน หลุยส์ เอร์นานเดซ, บิคตอร์ ชุสต์, เฟเด้ ซาน เอเมเตริโอ, ฆวน กาล่า และ ไบรอัน โอกัมโป้ ที่เจ็บ ส่วนในราย โรเกร์ มาร์ตี้ ซึ่งถูกเปลี่ยนตัวในเกมที่แล้วน่าจะฟิตพร้อมลงตัวจริงในแดนหน้า

ขณะที่ กิโรน่า ภายใต้การนำทัพของ มิเชล เพิ่งแพ้นัดแรกของซีซั่นด้วยการเจ๊งคาบ้านให้กับ เรอัล มาดริด 0-3 กระนั้นพวกเขาก็ยังออกสตาร์ทได้น่าประทับใจเมื่อมี 19 คะแนน ตามหลังจ่าฝูงเพียง 2 แต้มเท่านั้น

ทีมเยือนจะไม่มี ปอร์ตู, แบร์นาร์โด้ เอสปิโนซ่า, โฆเอล โรก้า, ริการ์ด อาร์เตโร่ และ โตนี่ บีญ่า ซึ่งเดี้ยงทั้งหมด ขณะที่ วิคเตอร์ ซีกานคอฟ ก็น่าจะหมดสิทธิ์ลงเล่นเช่นกันหลังเจ็บจากเกมล่าสุด เพราะงั้น บาเลรี่ เฟร์นานเดซ น่าจะได้ลงตัวจริงแทน

สถิติที่น่าสนใจ

• เจอกัน 5 นัดหลัง กาดิซ ชนะ 2 กิโรน่า ชนะ 2
• ผลการเจอกันเมื่อซีซั่นที่แล้ว (กาดิซ 2-0, กิโรน่า 1-1)

เรอัล มาดริด - โอซาซูน่า (21:15 น.)

เรอัล มาดริด ของกุนซือ คาร์โล อันเชล็อตติ ชนะ 3 เกมติดต่อกันรวมทุกรายการ รวมถึงผลงานในลีกนัดล่าสุดที่บุกเอาชนะทีมฟอร์มแรงอย่าง กิโรน่า 3-0 ทำให้พวกเขาขยับขึ้นไปรั้งจ่าฝูงในเวลานี้ มี 21 คะแนน

จู๊ด เบลลิงแฮม โชว์ฟอร์มโดดเด่นให้ "โลส บลังโกส" ซีซั่นนี้ ซัดไป 8 ประตู แอสซิสต์อีก 3 ครั้ง จาก 9 เกมรวมทุกรายการ เพราะงั้นเขาจะพร้อมปั้นเกมในบทบาทเพลย์เมคเกอร์อีกครั้ง

สำหรับความพร้อมของทีม อันเชล็อตติ จะยังไม่มี ดาวิด อลาบา, อาร์ด้า กูเลร์, เอแดร์ มิลิเตา และ ธิโบต์ กูร์กตัวส์ ที่สภาพร่างกายไม่สมบูรณ์เช่นเดิม ขณะที่ นาโช่ เฟร์นานเดซ ติดโทษแบน เพราะงั้น ออเรลิยง ชูอาเมนี่ อาจต้องถอยมารับบทเซ็นเตอร์จำเป็น โดยมี ฟราน การ์เซีย รับบทแบ็คซ้าย แล้วให้ เอดูอาร์โด้ คามาวิงก้า กลับไปเล่นมิดฟิลด์อีกครั้ง

ขณะเดียวกัน โอซาซูน่า ของเทรนเนอร์ ฆาโกบา อาร์ราซาเต้ มีอยู่ 10 คะแนน หลังจากนัดล่าสุดบุกชนะ เดปอร์ติโบ อลาเบส 2-0 รั้งอันดับ 10 ของตาราง

ด้านความฟิตของนักเตะ ฆาโกบา จะไม่มี อูไน การ์เซีย กับ มอยเซส โกเมซ ที่ยังเจ็บอยู่ ส่วน โยฮัน โมฮิก้า อาจต้องเช็คฟิตก่อนเตะหลังเดี้ยงจนถูกเปลี่ยนตัวในแมตช์ที่แล้ว แต่จะได้ หลุยส์ อาบิล่า พ้นโทษแบนกลับมาช่วยทีมอีกครั้ง

สถิติที่น่าสนใจ

• เจอกัน 5 นัดหลัง เรอัล มาดริด ชนะ 3 เสมอ 2
• โอซาซูน่า บุกเอาชนะ เรอัล มาดริด ถึงถิ่นครั้งสุดท้ายเมื่อปี 2004
• ผลการเจอกันเมื่อซีซั่นที่แล้ว (เรอัล มาดริด 1-1, โอซาซูน่า 0-2)

เรอัล มาญอร์ก้า - บาเลนเซีย (23:30 น.)

เรอัล มาญอร์ก้า ภายใต้กุนซือ ฆาเบียร์ อากีร์เร่ เพิ่งไปเพียง 7 แต้มเท่านั้นจาก 8 เกมในซีซั่นนี้ รั้งอันดับ 16 ของตาราง หลังจากแมตช์ล่าสุดเสมอกับ ราโย่ บาเญกาโน่ 2-2

เจ้าบ้านไม่มี อันโตนิโอ ไรโย่ และ ปาโบล มัฟเฟโอ ซึ่งสภาพร่างกายไม่สมบูรณ์ ด้าน เฆาเม่ คอสต้า ซึ่งเจ็บแล้วถูกเปลี่ยนตัวตั้งแต่ต้นเกมที่เจอ ราโย่ อาจต้องหลีกทางให้ โตนี่ ลาโต้ ในตำแหน่งแบ็คซ้าย กระนั้นสองกองหน้าฟอร์มเยี่ยมอย่าง เวดัด มูริกี้ และ อับดอน ปราตส์ จะพร้อมล่าตาข่ายเช่นเดิม

ขณะที่ บาเลนเซีย ของเทรนเนอร์ รูเบน บาราฆา ไม่ชนะใครมา 3 เกมติดต่อกันแล้ว โดยเฉพาะ 2 นัดหลังที่แพ้รวด ทำให้ตอนนี้พวกเขาร่วงไปอยู่อันดับ 9 มีอยู่ 10 คะแนน

สำหรับความพร้อมของทีมเยือนจะหมดสิทธิ์ใช้งาน โฆเซ่ กาย่า, เซร์กี้ กานอส, เฆซุส บาซเกซ, ดิมิทรี ฟูลกิเยร์ และ อัลเบร์โต้ มารี ที่เจ็บอยู่ ขณะที่ โรมัน ยาเรมชุค น่าจะยึดตัวจริงในตำแหน่งหน้าเป้าต่อไป

สถิติที่น่าสนใจ

• เจอกัน 5 นัดหลัง เรอัล มาญอร์ก้า ชนะ 3 บาเลนเซีย ชนะ 1
• เจอกันเมื่อซีซั่นที่แล้ว เรอัล มาญอร์ก้า ชนะทั้ง 2 นัด (เหย้า 1-0, เยือน 2-1)

เซบีญ่า - ราโย่ บาเญกาโน่ (02:00 น.)

เซบีญ่า ของกุนซือ โฆเซ่ หลุยส์ เมนดิลิบาร์ มีอยู่เพียง 7 คะแนนจากการลงสนาม 7 เกมในลีกซีซั่นนี้ ทำให้พวกเขารั้งอันดับ 15 ของตาราง แต่พวกเขาแพ้แค่เกมเดียวเท่านั้นจาก 6 นัดหลังรวมทุกรายการ ซึ่งคือการแพ้ บาร์เซโลน่า 1-0

สำหรับความพร้อมของเจ้าบ้านจะไม่มี เอริค ลาเมล่า, อัลฟอนโซ่ ปาสตอร์, ต็องกีย์ กูอาสซี่ และ มาร์เกา ที่เจ็บอยู่ ขณะที่ ยุสเซฟ เอ็น-เนซีรี่ หายจากอาการเจ็บพร้อมทำประตูได้ในเกมเจอ พีเอสวี ไอนด์โฮเฟ่น เพราะงั้นเขาจะพร้อมยืนหน้าเป้าให้ทีมในเกมนี้

ขณะที่ ราโย่ บาเญกาโน่ ภายใต้เทรนเนอร์ ฟรานซิสโก้ เพิ่งเสมอกับ เรอัล มาญอร์ก้า แบบดราม่า 2-2 ในแมตช์ล่าสุด หลังจาก ราดาเมล ฟัลเกา ซัดจุดโทษในนาที 90+12 พวกเขารั้งอันดับ 8 จากการมี 12 คะแนน

ด้านความพร้อมของทีมเยือนจะขาด แรนดี้ เอ็นเตก้า ซึ่งสภาพร่างกายไม่สมบูรณ์ ขณะที่ คาลิด มูมิน ติดโทษแบน ส่วน ราดาเมล ฟัลเกา แม้ยิงประตูสำคัญในเกมที่แล้ว แต่เขาน่าจะเป็นตัวสำรองเช่นเดิม

สถิติที่น่าสนใจ

• เจอกัน 5 นัดหลัง เซบีญ่า ชนะ 2 ราโย่ บาเญกาโน่ ชนะ 1
• ผลการเจอกันเมื่อซีซั่นที่แล้ว (เซบีญ่า 0-1, ราโย่ บาเญกาโน่ 1-1)