วันเสาร์ที่ 30 กันยายน 2566

เกตาเฟ่ - บีญาร์เรอัล (19:00 น.)

เกตาเฟ่ ของกุนซือ โฆเซ่ บอร์ดาลาส เก็บไป 8 คะแนนจาก 7 เกมแรกของซีซั่น รั้งอันดับ 11 ของตาราง โดยนัดล่าสุดบุกไปเสมอ แอธเลติก บิลเบา 2-2

สำหรับความพร้อมของทีมในเกมนี้ เจ้าบ้านยังไม่สามารถใช้งาน หลุยส์ มิญ่า และ เอเนส อูนัล ซึ่งเจ็บไปยาว นอกนั้นอยู่กันครบนำโดย เมสัน กรีนวู้ด ออกสตาร์ทเป็นตัวจริงต่อเนื่องในตำแหน่งปีกขวาพร้อมกับดร็อป บอร์ฆา มายอรัล เพื่อให้ ฆวนมี ลาตาซ่า ค้ำหน้าเป้า

ทางด้าน บีญาร์เรอัล ภายใต้การคุมทีมของ ปาเชต้า มี 7 แต้ม อยู่อันดับที่ 14 หลังจากนัดล่าสุดแพ้คาบ้านให้กับ กิโรน่า 1-2

ทีมเยือนยังไม่สามาราถใช้งาน ฟร็องซิส โกเกอแล็ง ที่เจ็บอยู่ รวมถึง ฆอร์เก้ กูเอนก้า ที่เดี้ยงเป็นรายล่าสุด แต่ได้ข่าวดีเมื่อ อัลเบร์โต้ โมเรโน่ พ้นโทษแบนพร้อมประจำการแบ็คซ้าย แนวรุกอาจพัก เคราร์ด โมเรโน่ ที่ไม่ค่อยฟิต แล้วส่ง อิลิอัส อาโกมัช ประสานงานร่วมกับ อเล็กซานเดอร์ ซอร์ลอธ และ เยเรมี่ ปิโน่

สถิติที่น่าสนใจ

• เจอกัน 5 นัดหลัง บีญาร์เรอัล ชนะ 4 เสมอ 1
• เกตาเฟ่ ไม่ชนะ บีญาร์เรอัล ในบ้านตัวเองตั้งแต่ปี 2017
• ผลการเจอกันเมื่อซีซั่นที่แล้ว (เกตาเฟ่ 0-0, บีญาร์เรอัล 2-1)

ราโย่ บาเญกาโน่ - เรอัล มาญอร์ก้า (21:15 น.)

ราโย่ บาเญกาโน่ ของกุนซือ ฟรานซิสโก้ ไม่แพ้ใครมา 3 เกมติดต่อกัน มี 11 คะแนน รั้งอันดับที่ 7 ของตาราง หลังจากแมตช์ล่าสุดเสมอกับ กาดิซ 0-0

เจ้าบ้านยังไม่สามารถใช้งาน แรนดี้ เอ็นเตก้า ที่เจ็บอยู่ ขณะที่ คาลิด อับดุล มุมิน ติดโทษแบน หลังโดนใบแดงจากเกมเจอ กาดิซ นอกนั้นพร้อมลงสนาม นำโดย เซร์คิโอ กาเมโญ่ ยืนหน้าเป้า แล้วให้ อิซี่ ปาลาซอน ประสานงานกับ ฆอร์เก้ เด ฟรูโตส และ ออสการ์ เทรโฮ อยู่ด้านหลัง

ขณะที่ เรอัล มาญอร์ก้า ของเทรนเนอร์ ฆาเบียร์ อากีร์เร่ ทำเซอร์ไพรส์ด้วยการเสมอ บาร์เซโลน่า 2-2 ในเกมที่แล้ว ทำให้พวกเขาเก็บได้ 6 แต้ม อยู่อันดับ 16

ทีมเยือนหมดสิทธิ์ใช้งานตัวเจ็บอย่าง อันโตนิโอ ไรโญ่ ขณะที่ โตนี่ ลาโต้ ก็ยังต้องเช็คฟิต ส่วน ปาโบล มัฟเฟโอ ติดโทษหลังโดนใบแดงจากเกมล่าสุด แต่คาดว่า เฆาเม่ คอสต้า จะได้ทำหน้าที่ เช่นเดียวกับ เซร์กี้ ดาร์เดร์ ก็น่าจะกลับมายืนตัวจริงอีกครั้ง

สถิติที่น่าสนใจ

• เจอกัน 5 นัดหลัง เรอัล มาญอร์ก้า ชนะ 3 ราโย่ บาเญกาโน่ ชนะ 2
• ราโย่ บาเญกาโน่ เอาชนะ เรอัล มาญอร์ก้า ไม่ได้เลยตลอด 3 เกมหลัง
• เจอกันเมื่อซีซั่นที่แล้ว เรอัล มาญอร์ก้า ชนะทั้ง 2 นัด (เหย้า 3-0, เยือน 2-0)


กิโรน่า - เรอัล มาดริด (23:30 น.)

กิโรน่า ภายใต้กุนซือ มิเชล ทำผลงานได้ดีอย่างน่าเซอร์ไพรส์ในช่วงออกสตาร์ทฤดูกาล มี 19 คะแนนจาก 7 นัด แม้เพิ่งโดน บาร์เซโลน่า แซงนำจ่าฝูงก็ตาม โดยเกมล่าสุดพวกเขาบุกชนะ บีญาร์เรอัล 2-1

สำหรับความพร้อมของเจ้าบ้านเหลือตัวเจ็บ 5 รายคือ โตนี่ บีญ่า, แบร์นาร์โด้ เอสปิโนซ่า, โฆเอล โรกา, ริการ์ด อาร์เตโร่ และ บอร์ฆา การ์เซีย แต่ไม่น่าส่งผลกระทบเท่าไหร่เพราะแข้งสำคัญอย่าง อาร์เต็ม โดฟบิค พร้อมปักหลักหน้าเป้า ขณะที่ ยันเคล เอร์เรร่า ที่ยิงถึง 3 ตุงก็พร้อมคุมแดนกลางเช่นเดิม

ทางด้าน เรอัล มาดริด ของเทรนเนอร์ คาร์โล อันเชล็อตติ เพิ่งเอาชนะ ลาส พัลมาส 2-0 เมื่อกลางสัปดาห์ มีอยู่ 18 แต้ม อยู่อันดับ 3

ทีมเยือนยังไม่สามารถใช้งาน เอแดร์ มิลิเตา, ธิโบต์ คูร์กตัวส์ และ อาร์ด้า กูเลร์ ที่ยังเจ็บอยู่ แต่เพิ่งมาเสีย ดาวิด อลาบา ที่เดี้ยงจากเกมล่าสุด อันโตนิโอ รูดิเกอร์ ซึ่งเจ็บในแมตช์ดังกล่าวจะยังมีชื่อช่วยทีม

แนวรุกคนสำคัญอย่าง วินิซิอุส จูเนียร์ ลงเล่นเป็นตัวสำรองเกมที่แล้ว มีลุ้นออกสตาร์ทตัวจริง เช่นเดียวกับ ดานี่ การ์บาฆาล โดยจะให้ นาโช่ ขยับไปเล่นเซ็นเตอร์แบ็ค ส่วน บราฮิม ดิอาซ ที่ยิงได้นัดล่าสุดจะยังเป็นสำรองเช่นเดิม

สถิติที่น่าสนใจ

• เจอกัน 5 นัดหลัง เรอัล มาดริด ชนะ 2 กิโรน่า ชนะ 2 เสมอ 1
• ยันเคล เอร์เรร่า (3 ประตู) และ จู๊ด เบลลิงแฮม (5 ประตู) ดาวซัลโวของสองทีม เป็นกองกลางทั้งคู่
• ผลการเจอกันเมื่อซีซั่นที่แล้ว (กิโรน่า 4-2, เรอัล มาดริด 1-1)

เรอัล โซเซียดาด - แอธเลติก บิลเบา (02:00 น.)

เรอัล โซเซียดาด ของกุนซือ อิมานอล อัลกัวซิล ทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยม เก็บไปได้ถึง 12 คะแนนในฤดูกาลนี้ หลังจากล่าสุดบุกชนะ บาเลนเซีย 1-0 ทำให้พวกเขารั้งอันดับ 6 ของตาราง

เกมนี้เจ้าบ้านยังหมดสิทธิ์ใช้งาน มาร์ติน เมร์เกลานซ์ ที่เดี้ยงอยู่ ส่วน อาร์เซน ซาร์คายาน ต้องเช็คฟิตเพราะมีอาการป่วย ที่เหลือพร้อมปะทะ นำโดย ทาเคฟุสะ คุโบะ ที่ฟอร์มโดดเด่น ประสานงานเกมรุกร่วมกับ คาร์ลอส เฟร์นานเดซ และ มิเกล โอยาร์ซาบัล

ทางด้าน แอธเลติก บิลเบา ภายใต้การนำทัพของ เอร์เนสโต้ บัลเบร์เต้ ผลงานดีมาก มี 14 แต้ม อยู่อันดับ 4 หลังจากนัดล่าสุดเปิดบ้านเสมอ เกตาเฟ่ 2-2

สภาพความพร้อมของทีมเยือนยังไม่สามารถใช้งาน นิโก้ วิลเลี่ยมส์ แนวรุกคนสำคัญที่เจ็บยาว ขณะที่ เปรู โนลาสกัวอิน และ อินญิโก้ รุยซ์ เด กาลาร์เรต้า ก็เดี้ยงเช่นกัน ส่วน ออยฮาน ซานเชต ติดโทษแบนเพราะได้ใบแดงในแมตช์ที่แล้ว

สถิติที่น่าสนใจ

• เจอกัน 5 นัดหลัง แอธเลติก บิลเบา ชนะ 3 เสมอ 1
• แอธเลติก บิลเบา บุกมาเอาชนะ เรอัล โซเซียดาด ถึงถิ่นครั้งสุดท้ายเมื่อปี 2017
• ผลการเจอกันเมื่อซีซั่นที่แล้ว (เรอัล โซเซียดาด 3-1, แอธเลติก บิลเบา 2-0)