วันอังคารที่ 6 พฤศจิกายน 2567

โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ - สตวร์ม กราซ (03:00 น.)
ดอร์ทมุนด์ ยังขาดนักเตะไปเพียบไม่ว่าจะเป็น เกรกอร์ โคเบิล, วัลเดอมาร์ อันตอน, นิคลาส ซูเลอ, ยูเลี่ยน รีเยอร์สัน, โจวานนี่ เรย์น่า, คาริม อเดเยมี่ และ ยูเลี่ยน ดูรานวิลล์

พวกเขาได้ ยาน คูโต้ กลับมาลงซ้อมก็จริงแต่ก็จะยังฟิตไม่พอสำหรับการมีส่วนร่วมในเกมนี้

ทางด้าน สตวร์ม กราซ ก็จะเดินทางมาเยือนโดยที่ไม่มีแข้งแบบ เกรกอรี่ วูธริค, ยอน โกเรนซ์ สแตนโควิช และ อเล็กซานดาร์ บอร์โควิช

ลีลล์ - ยูเวนตุส (03:00 น.)
ลีลล์ ขาดนักเตะอยู่หลายคนไม่ว่าจะเป็น อีธาน เอ็มบาปเป้, ฮาคอน ฮารัลด์สัน, เรมี่ กาเบลล่า, โธมัส มูนิเยร์ และ อุสมาน ตูเร่

อิสมายลี่ ก็ยังไม่กลับมาฟิตแบบเต็มที่ ส่วนในรายของ นาบิล เบนทาเล็บ, ติอาโก้ ซานโตส และ ซามูเอล อุมติตี้ อยู่ในกลุ่มต้องพักยาว

ยูเวนตุส จะขาด ดานิโล่ ไปแน่นอนเพราะติดโทษแบน แต่ ดักลาส ลุยซ์ มีชื่อในชุดนี้หลังพลาดการมีส่วนร่วมในเกมเมื่อสุดสัปดาห์

ที่เหลือ นิโก้ กอนซาเลซ ยังต้องพักต่อไปและพวกเขาก็ยังไร้นักเตะพักนานๆแบบ อาร์คาดิอุสซ์ มิลิค และ เบรเมอร์

เก็บตกสถิติเล็กน้อย
- หนสุดท้ายที่ ยูเวนตุส เจอทีมจากแดนน้ำหอมคือ น็องส์ ในยูโรป้าลีกฤดูกาล 2022/23 โดยเสมอในบ้านก่อนบุกไปชนะ 3-0 จากที่ก่อนหน้านั้นพวกเขาหาชัยชนะไม่เจอมา 3 เกมติดในการพบกับทีมจากลีกเอิง

ลิเวอร์พูล - ไบเออร์ เลเวอร์คูเซ่น (03:00 น.)
ลิเวอร์พูล มีข่าวดีที่ อิบราฮิม่า โคนาเต้ ไร้ปัญหาอาการบาดเจ็บจากเกมล่าสุดและจะพร้อมสำหรับการลงสนาม แต่ยังไม่การันตีจะเป็นตัวจริงหรือไม่

นอกนั้นก็ยังคงขาดนักเตะชุดเดิมอย่าง อลิสซอน, เฟเดริโก้ เคียซ่า, ฮาร์วี่ย์ เอลเลียตต์ และ ดิโอโก้ โชต้า

ขณะที่ เลเวอร์คูเซ่น ก็ได้ มาร์ติน เตร์ริเยร์ กลับมาลงซ้อมอีกครั้งและน่าจะมีชื่อในทีมได้

กระนั้นพวกเขาจะไร้ นอร์ดี้ มูคีเอเล่ ก็พบกับปัญหาอาการเจ็บกล้ามเนื้อและจะต้องพักไปจนถึงช่วงพักเบรคทีมชาติ

เก็บตกสถิติเล็กน้อย
- หนสุดท้ายที่ ลิเวอร์พูล เจอกับ เลเวอร์คูเซ่น ต้องย้อนไปแชมเปี้ยนส์ลีกรอบ 16 ทีมสุดท้ายในซีซั่น 2004/05 โดยพวกเขาเอาชนะ 3-1 ได้แบบไป-กลับ

- ลิเวอร์พูล ยังผ่านการกวาดชัยชนะมา 11 จาก 16 เกมหลังสุดที่เล่นแชมเปี้ยนส์ลีกในถิ่น แอนฟิลด์

สปอร์ติ้ง ลิสบอน - แมนเชสเตอร์ ซิตี้ (03:00 น.)
สปอร์ติ้ง จะไม่มีกองหลังแบบ กอนซาโล่ อินาซิโอ หลังพลาดการซ้อมเพราะมีปัญหาเกี่ยวกับกล้ามเนื้อจากเกมนัดล่าสุดที่ลงสนาม

พวกเขาได้ เอดูอาร์โด้ ควาเรสม่า กลับมาลงซ้อมอีกครั้งและจะพร้อมลงสนามช่วยทีม แต่ก็จะเล่นได้ไม่เต็มเกม

แมนฯ ซิตี้ ไม่ได้หนีบ จอห์น สโตนส์, แจ๊ค กรีลิช และ รูเบน ดิอาส เดินทางไปโปรตุเกส อีกทั้ง มานูเอล อคานยี กับ นาธาน อาเก้ ก็ยังไม่หายจากอาการเจ็บ

เควิน เดอ บรอยน์ เริ่มดีขึ้นแล้วแต่ยังคงต้องรอเช็คต่อไปและอาการเจ็บข้อเท้าของ ซาวินโญ่ ก็ดีขึ้นเช่นเดียวกัน

เก็บตกสถิติเล็กน้อย
- แมนฯ ซิตี้ ไร้พ่ายตลอดการเล่นเกมเยือนในเวทียุโรป 12 เกมหลังสุด (ชนะ 6 เสมอ 6)

- หนสุดท้ายที่ แมนฯ ซิตี้ พบกับ สปอร์ติ้ง นั้นเกิดขึ้นในรอบ 16 ทีมสุดท้ายของฤดูกาล 2021/22 โดยบุกไปชนะ 5-0 ก่อนลับมาเสมอ 0-0 ในบ้าน

เรอัล มาดริด - เอซี มิลาน (03:00 น.)
มาดริด ได้ โรดรีโก้ ฟื้นตัวจากอาการบาดเจ็บกล้ามเนื้อกลับมาก่อนกำหนดและมีชื่ออยู่ในทีมอีกครั้ง ส่วนทางด้าน อันโตนิโอ รูดิเกอร์ ก็ฟิตพร้อมเช่นเดียวกัน

นอกนั้นพวกเขาก็ยังขาด ธิโบต์ คูร์กตัวส์, ดานี่ การ์บาฆาล และ ดาวิด อลาบา ตามเดิม

ทางด้าน เปาโล ฟอนเซก้า กุนซือ มิลาน ยืนยันว่าจะส่ง ราฟาเอล เลเอา ออกสตาร์ทตัวจริงในการไปเยือนแดนกระทิง

พวกเขายังคงขาด มัตเตโอ กับเบีย ต่อไปแต่ในรายของ ดาวิเด้ คาลาเบรีย ฟื้นตัวกลับมาเต็มถังแล้วเช่นเดียวกับ แทมมี่ อับราฮัม ที่กลับมาเป็นสำรองในเกมก่อน

เก็บตกสถิติเล็กน้อย
- การเจอกันหนสุดท้ายของทั้งสองทีมต้องย้อนไปปี 2010 โน่นเลยและเฮดทูเฮด 6 เกมหลังสุดนั้นทั้งสองทีมผลัดกันชนะฝั่งละ 2 นัดและเสมออีก 2 นัด

- มาดริด ผ่านการกวาดชัยชนะไป 19 จาก 25 เกมหลังสุดที่เล่นเป็นทีมเหย้าในฟุตบอลยุโรป (เสมอ 4 แพ้ 2)

- มิลาน เก็บชัยชนะได้เพียงแค่ 2 จาก 19 เกมหลังสุดที่เดินทางไปเยือนทีมจากสเปน (เสมอ 7 แพ้ 10)