วันอาทิตย์ที่ 29 ตุลาคม 2566

เรอัล เบติส - โอซาซูน่า (20:00 น.)

เรอัล เบติส เพิ่งเอาชนะ อาริส ลิมาสซอล 1-0 ในศึกยูโรป้า ลีก แต่พวกเขาเสมอ เกตาเฟ่ 1-1 ในลีก ทำให้หลุดเจ๊าคู่แข่ง 4 จาก 5 นัดหลังสุด ตอนนี้รั้ง 9 ของตาราง

สภาพความพร้อมของทีม มานูเอล เปเญกรินี่ จะไม่มีตัวเจ็บอย่าง ยุสซูฟ ซาบาลี่, มาร์ค บราตร้า, นาบิล เฟคีร์, ชาดลี่ ริอัด, เซร์กี้ อัลติมิร่า และ ฆวน ครูซ

มาร์ค โรก้า ถูกถอยไปเล่นเซ็นเตอร์แบ็คในเกมกลางสัปดาห์ และจะยังยึดตำแหน่งดังกล่าวต่อไป

ขณะที่ โอซาซูน่า ของกุนซือ โฆโกบา อาร์ราซาเต้ เอาชนะ กรานาด้า 2-0 ในแมตช์ที่แล้ว ตอนนี้พวกเขารั้งอันดับที่ 11

ทีมเยือนจะหมดสิทธิ์ใช้งาน ฆวน ครูซ, โฆเซ่ มานูเอล อาร์นาอิซ และ อูไน การ์เซีย ที่เดี้ยงทั้งหมด

สถิติที่น่าสนใจ

• เจอกัน 5 นัดหลัง เรอัล เบติส ชนะ 3 โอซาซูน่า ชนะ 2
• โอซาซูน่า บุกชนะ เรอัล เบติส ครั้งสุดท้ายเมื่อปี 2014
• ผลการเจอกันเมื่อซีซั่นที่แล้ว (เรอัล เบติส 1-0, โอซาซูน่า 3-2)

ราโย บาเญกาโน่ - เรอัล โซเซียดาด (22:15 น.)

ราโย บาเญกาโน่ ของกุนซือ ฟรานซิสโก้ ผลงานน่าประทับใจเลยแม้ไร้พ่าย 6 เกมหลัง โดยนัดล่าสุดเอาชนะ ลาส พัลมาส 1-0 ทำให้ตอนนี้พวกเขากระโดดขึ้นรั้งอันดับที่ 7

สภาพความพร้อมของเจ้าบ้านจะไม่มี แรนดี้ เอ็นเตก้า ที่เจ็บกล้ามเนื้อ ขณะที่ ออสการ์ บาเลนติน ติดโทษแบนจากใบแดงในแมตช์ที่แล้ว

เรอัล โซเซียดาด ภายใต้การคุมทีมของ อิมานอล อัลกัวซิล ชนะถึง 6 จาก 7 เกมรวมทุกรายการหลังสุด โดยนัดล่าสุดคือการชนะ เบนฟิก้า 1-0 ในศึกแชมเปี้ยนส์ลีก ส่วนในลีกชนะ เรอัล มาญอร์ก้า ด้วยสกอร์เดียวกัน รั้งอันดับ 5 ของตาราง

ทีมเยือนยังไม่สามารถใช้งานบรรดาแข้งเดี้ยงหน้าเดิมทั้ง มาร์ติน เมร์เกลานซ์, คีแรน เทียร์นี่ย์, อันเดร ซิลวา, ฮามารี่ ตราโอเร่ และ อัลบาโร่ โอดริโอโซล่า

สถิติที่น่าสนใจ

• เจอกัน 5 นัดหลัง เรอัล โซเซียดาด ชนะ 3 เสมอ 2
• ราโย บาเญกาโน่ เปิดบ้านชนะ เรอัล โซเซียดาด ครั้งสุดท้ายเมื่อปี 2013
• ผลการเจอกันเมื่อซีซั่นที่แล้ว (เรอัล โซเซียดาด 2-1, ราโย บาเญกาโน่ 0-2)

แอธเลติก บิลเบา - บาเลนเซีย (00:30 น.)

แอธเลติก บิลเบา เกือบแบ่งแต้มกับ บาร์เซโลน่า แต่สุดท้ายก็โดน มาร์ค กีอู ยิงช่วงท้ายเกมแพ้ 1-0 กระนั้นผลงานโดยรวมในซีซั่นนี้พวกเขาก็น่าประทับใจเมื่อรั้งอันดับ 6

เกมนี้ เอร์เนสโต้ บัลเบร์เด้ จะไม่มีแข้งเดี้ยงอย่าง เยราย อัลบาเรซ, ฆูเลน อากิร์เรซาบาล่า, อันเดร์ เอร์เรร่า และ มิเกล เบสก้า ส่วน ยูรี่ เบร์ชิเช่ ก็ต้องเช็คฟิต

ขณะที่ บาเลนเซีย ของกุนซือ รูเบน บาราฆา เอาชนะ กาดิซ 2-0 ในเกมที่แล้ว ชัยชนะดังกล่าวส่งพวกเขารั้งอันดับ 8 ตามหลัง โซเซียดาด อันดับ 5 อยู่เพียง 4 คะแนน

ทีมเยือนจะยังไม่สามารถใช้งาน อันเดร อัลเมด้า, มุคตาร์ เดียคาบี้ และ เฆซุส บาซเกซ ที่เจ็บ ส่วน เซร์กี้ กานอส และ อัลเบร์โต้ มารี ก็ต้องเช็คฟิตก่อน

สถิติที่น่าสนใจ

• เจอกัน 5 นัดหลัง แอธเลติก บิลเบา ชนะ 3 บาเลนเซีย ชนะ 1 เสมอ 1
• บาเลนเซีย ไม่ชนะใครตลอด 4 เกมหลัง
• ผลการเจอกันเมื่อซีซั่นที่แล้ว (แอธเลติก บิลเบา 1-0, บาเลนเซีย 1-2)

แอตเลติโก้ มาดริด - เดปอร์ติโบ อลาเบส (03:00 น.)

แอตเลติโก้ มาดริด ของเทรนเนอร์ ดิเอโก้ ซิเมโอเน่ บุกถล่ม เซลต้า บ๊โก้ 3-0 ในนัดที่แล้ว ทำให้รั้งอันดับ 4 ของตาราง แต่แมตช์ล่าสุดคือการเสมอ เซลติก 2-2 ในศึกแชมเปี้ยนส์ลีกเมื่อกลางสัปดาห์

สภาพความพร้อมของเจ้าถิ่นยังอดใช้งานพวกแข้งเจ็บหน้าเดิม ๆ อย่าง เรนิลโด้, โธมัส เลอมาร์, บิโตโล่, ซามูเอล ลิโน่, โฮเซ่ กิเมเนซ และ เมมฟิส เดปาย

มาร์กอส ญอเรนเต้ คาดว่าจะถูกจับไปยืนวิงแบ็คซ้าย โดยให้โอกาส ปาโบล บาร์ริออส ยืนแดนกลาง ส่วนแนวรุกนำโดยคู่หูอย่าง อองตวน กรีซมันน์ กับ อัลบาโร่ โมราต้า

เดปอร์ติโบ อลาเบส ของกุนซือ หลุยส์ การ์เซีย ไม่ชนะใครมา 6 เกมติดต่อกันแล้ว โดยชนะครั้งล่าสุดเหนือ บาเลนเซีย เมื่อต้นเดือนกันยายนเลยทีเดียว ตอนนี้พวกเขาอยู่อันดับ 17

นัดนี้ทีมเยือนไม่มี คาร์ลอส เบนาบิเดซ กับ จูเลียโน่ ซิเมโอเน่ ที่ยังเดี้ยงอยู่ ส่วน ฆาบี้ โลเปซ ก็คาดว่าจะไม่พร้อมช่วยทีมจากปัญหาเจ็บข้อเท้า

สถิติที่น่าสนใจ

• เจอกัน 5 นัดหลัง แอตเลติโก้ มาดริด ชนะ 4 เดปอร์ติโบ อลาเบส ชนะ 1
• เดปอร์ติโบ อลาเบส บุกชนะ แอตเลติโก้ มาดริด ครั้งสุดท้ายเมื่อปี 2003
• แอตเลติโก้ มาดริด ชนะในลีก 5 เกมติดต่อกัน
• เดปอร์ติโบ อลาเบส ไม่ชนะใคร 6 เกมหลัง