วันเสาร์ที่ 25 พฤศจิกายน 2566

ราโย บาเญกาโน่ - บาร์เซโลน่า (20:00 น.)

ราโย บาเญกาโน่ ของกุนซือ ฟรานชิสโก้ รั้งอันดับ 10 ของตาราง พวกเขาผลงานดีไม่ใคร 9 เกมติดต่อกัน แต่สะดุดแพ้ กิโรน่า จ่าฝูงคาบ้านก่อนพักเบรคทีมชาติ

สำหรับความพร้อมของเจ้าบ้านจะไม่มี ออสการ์ เตรโฮ่ ที่เจ็บเข่า ในขณะที่ อัลบาโร่ การ์เซีย ติดโทษแบน หลังสะสมใบเหลืองครบโควตา

สำหรับ บาร์เซโลน่า เกือบเอาตัวไม่รอด แต่ก็ยังพลิกชนะ อลาเบส ได้ในนัดล่าสุด ตอนนี้ ชาบี้ เอร์นานเดซ เจอแรงกดดันไม่น้อย เมื่อทีมแพ้ 2 จาก 4 เกมหลังสุดรวมทุกรายการ ส่วนผลงานในลีกตอนนี้รั้งอันดับ 3 ตามหลัง กิโรน่า 4 คะแนน

สำหรับความพร้อมในแมตช์นี้ ทีมเยือนจะไม่มี กาบี้ ที่เจ็บเอ็นไขว้หน้าข้อเข่าจากการเล่นให้ทีมชาติ และคาดว่าจะปิดเทอมซีซั่นนี้

มาร์ค อันเดร แตร์-สเตเก้น เป็นอีกรายที่หมดสิทธิ์ลงเล่น เพราะเจ็บที่หลังระหว่างซ้อมในแคมป์ทีมชาติ เพราะงั้น อินญากี้ เปนญ่า จะได้รับโอกาสลงเฝ้าเสาแทน

เฟรงกี้ เดอ ยอง หายเจ็บข้อเท้าแล้ว และจะมีชื่อในเกมนี้เช่นเดียวกับ อเลฆานโดร บัลเด้ ซึ่งสลัดเดี้ยงลงเป็นตัวสำรองในแมตช์เจอ อลาเบส

สถิติที่น่าสนใจ

• เจอกัน 5 นัดหลัง ราโย บาเญกาโน่ ชนะ 3 บาร์เซโลน่า ชนะ 1 เสมอ 1
• ราโย บาเญกาโน่ ไร้ชัยตลอด 4 นัดหลังสุดที่เล่นในบ้าน
• ผลการเจอกันเมื่อซีซั่นที่แล้ว (ราโย บาเญกาโน่ 2-1, บาร์เซโลน่า 0-0)

บาเลนเซีย - เซลต้า บีโก้ (22:15 น.)

บาเลนเซีย ของกุนซือ รูเบน บาราฆา ถูกหยุดสถิติไร้พ่าย 5 เกมติดต่อกัน หลังจากโดน เรอัล มาดริด ถล่มขาดลอย 5-1 ก่อนเบรคทีมชาติ ทำให้พวกเขารั้งอันดับ 9 ของตาราง

สำหรับสภาพความพร้อมของเจ้าถิ่นจะไม่มีแข้งเจ็บอย่าง อันเดร อัลเมด้า, เซลิม อมัลลาห์ และ อัลเบร์โต้ มารี ส่วนการจัดทัพไม่น่าจะเปลี่ยนแปลงมากนักจากชุดที่แพ้ มาดริด นำทัพโดย อูโก้ ดูโร่ ในแดนหน้า

ในขณะที่ เซลต้า บีโก้ แพ้แบบสุดมันกับ แอธเลติก บิลเบา ในนัดที่แล้ว ส่งผลให้ทีมของ ราฟาเอล เบนิเตซ พ่ายไปแล้ว 8 จาก 13 เกมในซีซั่นนี้ รั้งอันดับ 18

ความพร้อมของทีมเยือนยังต้องลุ้นเช็คฟิตของ คาร์ล สตาร์เฟลต์ ที่มีอาการป่วย ส่วน อูโก้ โซเตโล่ และ โจเซฟ ไอดู จะหมดสิทธิ์ลงเล่นแน่นอนแล้ว เนื่องจากเดี้ยง แต่จะได้ เรนาโต้ ทาเปีย พ้นโทษแบนกลับมาช่วยทีมอีกครั้ง

สถิติที่น่าสนใจ

• เจอกัน 5 นัดหลัง บาเลนเซีย ชนะทั้ง 5 เกม
• เซลต้า บีโก้ บุกมาเอาชนะ บาเลนเซีย ครั้งสุดท้ายเมื่อปี 2017
• ผลการเจอกันเมื่อซีซั่นที่แล้ว (บาเลนเซีย 3-0, เซลต้า บีโก้ 1-2)

เกตาเฟ่ - อัลเมเรีย (00:30 น.)

เกตาเฟ่ ของกุนซือ โฆเซ่ บอร์ดาลาส หนักเสมอไปหน่อย เพราะแบ่งแต้มคู่แข่งมากถึง 7 จาก 13 เกมในซีซั่นนี้ รั้งอันดับ 11 ของตาราง

พวกเขาไม่แพ้ใครอีกเลยนับตั้งแต่พ่าย เรอัล โซเซียดาด สิ้นเดือนกันยายน โดยนัดล่าสุดเสมอกับ กรานาด้า 1-1

สำหรับความพร้อมของเจ้าบ้านจะไร้เงาสองแข้งเจ็บอย่าง เมาโร อารัมบาร์รี่ กับ เอเนส อูนาล แต่ได้ข่าวดีเมื่อ เฌเน่ ดาโกนัม อาจคัมแบ็คลงตัวจริง นำทัพโดย เมสัน กรีนวู้ด ซึ่งทำ 2 แอสซิสต์จาก 2 เกมหลัง

ขณะเดียวกัน อัลเมเรีย ผลงานย่ำแย่เมื่อยังไม่ชนะใครเลยจาก 13 เกม แพ้ไปถึง 10 นัด ทำให้ลูกทีมของ กาอิซก้า การิตาโน่ รั้งบ๊วยอยู่ในขณะนี้

ทีมเยือนจะหมดสิทธิ์ใช้งาน มาร์โก มิโลวาโนวิช, อิบราฮิมา โคเน่, หลุยส์ ซัวเรซ, มาร์ค พูบิลล์ และ มาร์ติน สวิเดอร์สกี้ ซึ่งเจ็บทั้งหมด ในขณะที่ อเล็กซ์ เซนเตเญส ก็ยังต้องลุ้นเช็คฟิต

สถิติที่น่าสนใจ

• เจอกัน 5 นัดหลัง อัลเมเรีย ชนะ 3 เกตาเฟ่ ชนะ 2
• เกตาเฟ่ ไม่แพ้ใครตลอด 8 เกมหลังสุด
• ผลการเจอกันเมื่อซีซั่นที่แล้ว (อัลเมเรีย 1-0, เกตาเฟ่ 1-2)

แอตเลติโก้ มาดริด - เรอัล มาญอร์ก้า (03:00 น.)

แอตเลติโก้ มาดริด ของกุนซือ ดิเอโก้ ซิเมโอเน่ ผลงานน่าประทับใจรั้งอันดับ 4 ของตาราง โดยนัดล่าสุดก่อนเบรคทีมชาติคือการชนะ บีญาร์เรอัล 3-1 ตามหลังจ่าฝูง 6 แต้ม แต่แข่งน้อยกว่า 1 นัด

เกมนี้เจ้าบ้านจะอดใช้งาน โธมัส เลอมาร์, บิโตโล่ และ เรนิลโด้ ที่ยังเดี้ยงอยู่ ส่วน โรดริโก้ ริเกลเม่ จะต้องเช็คฟิตก่อนแข่ง แต่ข่าวดีคือจะได้ เมมฟิส เดปาย หาบเจ็บกลับมาเป็นตัวเลือกอีกครั้ง

ซามูเอล ลิโน่ คาดว่าจะได้รับโอกาสลงเล่นในริมเส้นฝั่งซ้าย โดยมี อองตวน กรีซมันน์ จับคู่แดนหน้ากับ อัลบาโร่ โมราต้า

ในขณะที่ เรอัล มาญอร์ก้า เพิ่งมีเพียง 9 แต้มเท่านั้นหลังแข่งไป 12 นัด รั้งอันดับ 17 โดยเกมที่แล้วทีมของ ฆาเบียร์ อากีร์เร่ แพ้ให้กับ เรอัล เบติส 1-0

สำหรับทีมเยือนจะไม่มี เวดัด มูริกี้ ที่เจ็บข้อเท้าและต้องจนถึงเดือนหน้า ส่วน โอมาร์ มาสคาเรลล์ ติดโทษแบน

สถิติที่น่าสนใจ

• เจอกัน 5 นัดหลัง เรอัล มาญอร์ก้า ชนะ 3 แอตเลติโก้ มาดริด ชนะ 2
• แอตเลติโก้ มาดริด ชนะในบ้าน 17 เกมติดต่อกัน
• ผลการเจอกันเมื่อซีซั่นที่แล้ว (แอตเลติโก้ มาดริด 3-1, เรอัล มาญอร์ก้า 1-0)