วันอาทิตย์ที่ 3 กันยายน 2566

กิโรน่า - ลาส พัลมาส (19:00 น.)

กิโรน่า เฉือนเอาชนะ เซบีญ่า 2-1 ในเกมล่าสุด ทำให้ตอนนี้ทีมของ มิเชล โชว์ฟอร์มยอดเยี่ยมเก็บได้ 7 แต้มจาก 3 นัด เกมนี้พวกเขาต้องมาเจอกับ ลาส พัลมาส ทีมน้องใหม่ โดยการเจอกันครั้งล่าสุดเกิดขึ้นในซีซั่น 2017-18 ซึ่งพวกเขาเอาชนะได้ทั้งสองนัด

ความพร้อมของทีม กิโรน่า ขาดตัวผู้เล่นที่เจ็บหลายรายเลย โดยเฉพาะ ยังเคล เอร์เรร่า ที่เพิ่งเดี้ยงจากเกมล่าสุด เพราะงั้น ฆวนเป กับ ปาโบล ตอร์เร่ ต่างแย่งลงตัวจริงในแดนกลางแทน

ในขณะที่ ลาส พัลมาส เพิ่งเสมอ เรอัล โซเซียดาด 0-0 ในนัดที่แล้ว พวกเขายังสะกดคำว่าชนะไม่เป็นเลยจาก 3 เกมแรก

สำหรับสภาพความฟิตของทีมยังมีตัวที่เจ็บอยู่หลายรายเช่นกัน เช่น ดาเล่ย์ ซิงค์กราเฟ่น และ มาร์บิน ปาร์ค แต่แนวรุกยังมี ซานโดร รามิเรส และ มูเนียร์ เอล ฮัดดาดี้ เป็นตัวความหวัง

สถิติที่น่าสนใจ

• เจอกัน 22 นัดหลัง กิโร่น่า ชนะ 8 เสมอ 7
• เจอกันตั้งแต่ปี 2015 กิโรน่า ยังไม่แพ้ ลาส พัลมาส เลย

เรอัล มาญอร์ก้า - แอธเลติก บิลเบา (21:15 น.)

เรอัล มาญอร์ก้า ของกุนซือ ฆาเบียร์ อากีร์เร่ เก็บได้เพียงแต้มเท่านั้นจาก 3 นัดแรก โดยล่าสุดบุกแพ้ กรานาด้า 3-2 ส่วนนัดนี้ต้องมาเจอของแข็งอย่าง แอธเลติก บิลเบา แต่พวกเขามีสถิติที่ดีเมื่อไม่แพ้ให้ทีมจากแคว้นบาสก์มา 3 นัดติดแล้ว

สำหรับความพร้อมในเกมนี้ มาญอร์ก้า ยังขาด อันโตนิโอ ไรโญ่ ที่เจ็บ แต่ตัวหลักรายอื่น ๆ อยู่พร้อมหน้าเช่น เวดัด มูริกี้ และ โอมาร์ มัสคาเรลล์

ในขณะที่ แอธเลติก บิลเบา หลังจากแพ้ เรอัล มาดริด นัดเปิดสนามจากนั้นก็คว้าชัยได้ตลอด 2 นัดที่ผ่านมา โดยเฉพาะแมตช์ล่าสุดที่ชนะ เรอัล เบติส 4-2

ส่วนสภาพความฟิตของทีม เอร์เนสโต้ บัลเบเด้ จะยังอดใช้งาน ออสการ์ เด มาร์กอส, เปรู โนลาสโกอิน และ เยราย อัลบาเรซ ที่เจ็บ ออยฮาน ซานเชต ติดโทษแบนหมดสิทธิ์ลงสนามแน่นอนแล้ว

สถิติที่น่าสนใจ

• เจอกัน 30 นัดหลัง แอธเลติก บิลเบา ชนะ 15 เสมอ 8
• เรอัล มาญอร์ก้า ไม่แพ้ในบ้านตัวเองเมื่อเจอ แอธเลติก บิลเบา ตั้งแต่ธันวาคม 2012

แอตเลติโก้ มาดริด - เซบีญ่า (23:30 น.)

แอตเลติโก้ มาดริด เพิ่งทำลายสถิติถล่ม ราโย่ บาเญกาโน่ 7-0 ซึ่งนับเป็นการยิงประตูเกมเยือนที่ขาดลอยที่สุดในลีกสูงสุดสเปน ทำให้เปิดซีซั่นนี้ทีมของ ดิเอโก้ ซิเมโอเน่ เก็บไปแล้ว 7 แต้มจาก 3 นัด

เกมนี้พวกเขาต้องมาเจอกับ เซบีญ่า แต่การเจอกัน 2 นัดในซีซั่นที่แล้วพวกเขาคว้าชัยได้หมด โดยเฉพาะการถล่ม 6-1 เมื่อเล่นกันที่ ว่านต๋า เมโทรโปลิตาโน่

สภาพความพร้อมของทีมคาดว่าจะไม่สามารถใช้งาน ซาอูล ญิเกซ ที่มีปัญหากล้ามเนื้อ ส่วนในราย เมมฟิส เดปาย, โกเก้, โฆเซ่ ฮิเมเนซ และ เรนิลโด้ ต่างเจ็บกันหมด

ยานนิค คาร์ราสโก้ มีข่าวว่าจะย้ายไป อัล-ชาบับ ในซาอุดิอาระเบีย ทำให้ ซามูเอล ลิโน่ น่าจะได้รับโอกาสลงตัวจริงแทน

ในขณะที่ เซบีญ่า ดีกรีแชมป์ยูโรป้า ลีก รั้งบ๊วยของตาราง หลังจากแพ้ตลอด 3 นัดที่ผ่านมา ทำให้ โฆเซ่ หลุยส์ เมนดิลิบาร์ กำลังเจอแรงกดดันอย่างหนัก

สำหรับสภาพความฟิตขาดตัวผู้เล่นยาวเป็นหางว่าว นำโดย เฆซุส นาบาส, เฟร์นานโด และ มาร์กอส อคุนญ่า แต่ยังมี ยุสเซฟ เอ็น-เนซีรี่ เป็นตัวความหวังในแดนหน้า

สถิติที่น่าสนใจ

• เจอกัน 19 นัดหลัง แอตฯ มาดริด ชนะ 7 เสมอ 7
• ครั้งสุดท้ายที่ เซบีญ่า บุกเอาชนะ แอตฯ มาดริด ได้ต้องย้อนไปในปี 2018

โอซาซูน่า - บาร์เซโลน่า (02:00 น.)

โอซาซูน่า อดไปเล่นในรอบแบ่งกลุ่ม ยูโรป้า คอนเฟอเรนซ์ ลีก หลังตกรอบเพลย์ออฟ กระนั้นผลงานในลีกสำหรับทีมของ ฆาโกบา อาร์ราซาเต้ ทำได้ดีทีเดียวเมื่อเก็บได้ 6 แต้มจาก 3 นัด แต่การเปิดบ้านเจอ บาร์เซโลน่า แชมป์เก่าคืองานหินและพวกเขาก็แพ้ตลอด 3 นัดหลัง

สำหรับความพร้อมของทีมจะหมดสิทธิ์ใช้งาน ดาร์โก้ บราซานาช ที่เจ็บเข่า ที่จะได้ เอเซเกียล อาบิล่า พ้นโทษแบนกลับมาช่วยทีมอีกครั้ง

ทางฝั่งของ บาร์เซโลน่า เปิดซีซั่นสะดุดเล็กน้อยที่เสมอ เกตาเฟ่ แต่จากนั้นพวกเขาก็ชนะได้ตลอด โดยเฉพาะนัดล่าสุดที่เฉือน บีญาร์เรอัล 4-3

สภาพความฟิตของทีมในเกมนี้ ชาบี้ เอร์นานเดซ จะได้ ราฟินญ่า พ้นโทษแบน แต่ยังอดใช้งาน โรนัลด์ อเราโฮ่ และ เปดรี้ ที่เจ็บ แต่พวกเขาเพิ่งได้ เจา เฟลิกซ์ กับ เจา คันเซโล่ ที่ย้ายแบบยืมตัวในวันเดดไลน์ แถมทั้งคู่มีชื่อลุ้นประเดิมสนามด้วย

อินญิโก้ มาร์ติเนซ ยังเป็นรายเดียวที่เดี้ยงยาวและยังไม่แน่ชัดว่าจะกลับมาเมื่อใด กระนั้น ชาบี้ น่าจะให้โอกาส ลามีน ยามาล ลงตัวจริงต่อเนื่องในแนวรุก

สถิติที่น่าสนใจ

• เจอกัน 21 นัดหลัง บาร์เซโลน่า ชนะ 10 เสมอ 8
• โอซาซูน่า ไม่ชนะในบ้านตัวเองเมื่อเจอ บาร์เซโลน่า ตั้งแต่ปี 2012